‘หมอปลา-น้ำฟ้า’ ขอโทษ น้อมรับกรรม หลาน ‘หลวงปู่แสง’ ฉะศึกษาให้ดีก่อนจะตัดสินใคร

  • By Entertainment Addict Editorial Team
  • 13 พ.ค. 2022 (16:12 น.)
  • 0

วันนี้ (13 พ.ค.) เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมภรรยา นางสาวรภัสรณ์ ฤทธิธนไพบูลย์ หรือ น้ำฟ้า เปิดใจ ขอโทษ กรณีเข้าตรวจสอบพฤติกรรม หลวงปู่แสง รับผิดพลาดเรื่องข้อมูลอาการป่วย

น้ำฟ้า ยอมรับว่าพฤติกรรมของตัวเองเป็นเรื่องที่ไม่ดี ไม่เหมาะสม อยากขอโทษด้วยสำนึกผิดจริง ๆ ขณะที่ หมอปลา ระบุว่า ก่อนกรณีหลวงปู่แสง ทีมงานมีการเก็บข้อมูลหลักฐานกันมาก่อน และวันที่ลงพื้นที่ได้ประสาน ผอ.สำนักพุทธฯ จ.ยโสธร , นายอำเภอป่าติ้ว , และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปร่วมตรวจสอบ ซึ่งยอมรับว่า ผิดพลาดเรื่องข้อมูลอาการป่วยของหลวงปู่ ทุกคนรวมถึงเจ้าหน้าที่ เพิ่งทราบหน้างานตอนลงพื้นที่ว่าท่านป่วย จึงมีการซักถามไปที่พระเลขาฯ ว่า ถ้าหลวงปู่ป่วยทำไมถึงไม่พาท่านไปรักษาให้มันถูกต้อง และประเด็นการซักถาม ก็เลยลามไปถึงเรื่องอภินิหาร เรื่องพระธาตุ

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบอกว่า น้อมรับกรรม ขอโทษกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น แต่อยากให้เข้าใจว่า ที่โวยวายเป็นการโวยวายใส่พระลูกศิษย์ พระเลขาฯ

หมอปลา บอกว่า ตอนนี้ในโซเชียลมีการแชร์ภาพใบรักษาโรคของหลวงปู่ อยากให้ช่วยกันตรวจสอบว่าแต่ละใบระบุ อาการป่วยด้วยโรคอะไรบ้าง

ส่วนเรื่องบทบาทหน้าที่การทำงานหลังจากนี้ หมอปลาบอกว่า ยืนยันเดินหน้าตรวจสอบข้อร้องเรียนต่าง ๆ ตามเดิมและเร็ว ๆ นี้ จะมีเคสใหญ่ระดับประเทศ เชื่อว่า จะมีแรงกระเพื่อมทางสังคมอีก ซึ่งยืนยันเป้าหมาย คือ ทำเพื่อส่วนรวม

โดยวานนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นางทักษิณา ดีหอม อายุ 52 ปี นำเอกสาร การเข้ารับการรักษาอาการอาพาธของหลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 96 ปี ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2562 มายืนยันว่า หลวงปู่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ อัลไซเมอร์จริง เป็นหลักฐานที่ญาติของหลวงปู่แสง นำมายืนยัน

นางทักษิณา ดีหอม หลานสาว (ลูกของน้องชายหลวงปู่แสง) กล่าวว่า หลังจากที่เห็นคลิป รู้สึกตกใจอย่างมาก ดูคลิปอยู่หลายรอบ หลวงปู่ บวชที่วัดศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น ตอนอายุ 20 ปี จนตอนนี้อายุจะถึง 100 ปีแล้ว ตนเองเป็นลูกหลานติดตามหลวงปู่มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ความรู้สึกงงและสับสนว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร แต่เราก็เข้าใจอยู่แล้ว เพราะหลวงปู่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และก็มีเอกสารทางการแพทย์ยืนยัน

ในสถานการณ์แบบนั้นผู้หญิงเข้าไปได้อย่างไร อีกทั้งยังมีการถ่ายคลิป ยิ่งทำให้หดหู่ใจสงสารหลวงปู่ หลังมีคลิปดังกล่าวออกมา ก็มีการพูดคุยกันกับญาติ ๆ หลายคนว่าเป็นไปได้อย่างไร “ตอนนี้คือช่วงสุดท้ายของหลวงปู่ ลูกหลานทุกคนเกิดความไม่สบายใจ สิ่งที่เกิดขึ้นมองว่า หมอปลาและนักข่าวที่ไปศึกษาข้อมูลน้อยไปหรือไม่” อาการป่วยอัลไซเมอร์ที่ป่วยนั้น เป็นมานานแล้ว จะเห็นได้ว่าตอนที่หมอปลาพานักข่าวเข้าไปนั้น หลวงปู่ยังหลง ๆ ลืม ๆ ถามว่าพากันมาทำอะไร และนั่งนิ่ง ไม่ทำอะไร

นางทักษิณา กล่าวว่า ตนมองว่า การจัดการระบบภายในวัดไม่ได้เรื่อง ควรจะมีระบบการดูแลพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าหาพระผู้ใหญ่ก็ได้ ควรจะมีขั้นมีตอนในการเข้าหาพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ แล้วที่หลวงปู่ทำลงไป ท่านไม่ได้รู้สึกตัว ตามคลิปที่บอกว่าไปจับไปล้วงนั้น ท่านไม่ได้รู้สึก และไม่รู้ว่าจับอะไร และพระให้สัมภาษณ์นั้นก็เป็นการเวียนมาดูแล ไม่ได้มีการดูแลอย่างจริงจัง ตอนนี้ลูกหลานและญาติคนอื่น ๆ ไม่สบายใจอย่างมาก ควรจะมีคนที่มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ตรงไปตรงมา สิ่งที่เกิดขึ้น พระที่ดูแลยังไม่ได้ตั้งตัว เป็นการจู่โจมและตัดสินหลวงปู่ไปแล้ว และพยายามจี้ถามให้ตอบ ทั้งที่ควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีกว่านี้

ตอนนี้มองการทำงานของหมอปลาว่าแย่กว่าที่ผ่านมา อยากจะถามหมอปลาว่าเคยศึกษาข้อมูลประวัติของหลวงปู่หรือยัง ว่าที่ผ่านมาหลวงปู่สร้างอะไรเอาไว้บ้าง และสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็มองว่าเหมือนการจัดฉากกันขึ้นมา เพราะตลอดชั่วอายุของหลวงปู่ไม่เคยทำสิ่งที่ไม่ดี

“แต่ภาพที่เห็นเหมือนหลวงปู่เป็นตุ๊กตา ใครจับทำอะไรก็ทำหมดโดยไม่รู้สึกตัว อยากให้หมอปลาควรศึกษาให้ดี และไม่ได้ใช้คำพูดกับหลวงปู่นอบน้อมกับพระผู้ใหญ่ที่มีศีลเลยแม้แต่น้อย พูดข้ามหัวไปมา ในมุมมองโทษการจัดการระบบในวัดที่ไม่มีการจัดการที่ดีกว่านี้ อีกทั้งผู้หญิงที่เข้าไปก็ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้แต่ลูกหลานที่เข้าไปประจำก็ไม่เคยขึ้นไปในจุดนั้น หลวงปู่ชราภาพไม่รู้สึกอะไรแล้ว อยากฝากในเรื่องนี้ให้หมอปลาได้ทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นตัดสินคนๆ หนึ่งหรือพระรูปหนึ่งควรศึกษาประวัติให้ดี ควรคิดวิเคราะห์แยกแยะให้ดีว่ามันจะใช่หรือไม่ ไม่ใช่เป็นศาลเตี้ยตัดสินคนเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น”

นอกจากนี้ ในฐานะของญาติ รู้สึกกังวลใจและตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่ามีเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากศรัทธาญาติธรรมที่มีต่อหลวงปู่ ซึ่งผู้ดูแลควรรอบครอบ และเคร่งครัดในข้อปฏิบัติมากกว่านี้ โดยเฉพาะการอนุญาตให้สตรีขึ้นไปใกล้ชิดหลวงปู่ และที่สำคัญโยมไม่มีหน้าที่ไปตัดสินพระให้สึก ทุกอย่างมีขั้นมีตอน มีพระผู้ใหญ่ดูแล พระท่านมีศีลมีธรรมที่สูง ถามกลับไปว่าคนเรามีศีลขนาดไหน

ขอบคุณที่มา สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว


Entertainment Addict Editorial Team
อ่านทั้งหมด