ขวัญฤดี-ปู อนุวัฒน์ เล่าชีวิตคู่กว่า 27 ปี พร้อมลูกสาว หยดน้ำ รับสุดกดดันเป็นลูกดารา

  • By Entertainment Addict Editorial Team
  • 07 เม.ย. 2023 (11:23 น.)
  • 0

เรียกได้ว่าเป็นการเปิดใจพร้อมกันทั้งครอบครัวครั้งแรกในรอบ 20 ปี สำหรับ ขวัญ ขวัญฤดี กับ ปู อนุวัฒน์ พร้อมด้วยลูกสาว น้องหยดน้ำ นัดดาภรณ์ กับเรื่องราวที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อนผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องวัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

รู้สึกยังไงที่นั่งแล้วมีพ่อ แม่ ขนาบอยู่ต่อหน้าคนทั้งประเทศ ?

หยดน้ำ : ตื่นเต้น หยดน้ำจำได้ครั้งล่าสุดที่ออกรายการกับคุณพ่อคุณแม่ น่าจะประมาณ 2-3 ขวบ ปีนี้หยดน้ำอายุ 25 ค่ะ

เราเป็นครอบครัวนักแสดงทั้งคู่ ตอนนั้นมีหยดน้ำด้วย แบ่งเวลาดูลูกยังไง ?

ปู : จริง ๆ เราดูคิว จะจัดคิวไม่ตรงกัน ต้องมีคนหนึ่งนอนกับลูกทุกวัน

หยดน้ำ : ใช่ค่ะ หยดน้ำติดพ่อกับแม่มาก นอนกับคนอื่นไม่ได้เลย คุณย่า คุณยาย นี่นอนไม่ได้เลย

ตอนนั้นยากไหม ?

ปู : เราจะคุยคิวกันก่อนว่าปูรับคิววันนี้ ๆ นะ เมื่อก่อนเราไม่รับละครซ้อน คิวก็จัดง่ายหน่อย

อาชีพนักแสดงของพ่อแม่ ไม่น่าเป็นอาชีพที่เราชอบเลยตอนเด็ก ?

หยดน้ำ : ใช่ค่ะ ตอนเด็ก ๆ รู้สึกว่ามันทำให้พ่อแม่ไม่มีเวลาให้เราเหมือนพ่อแม่คนอื่น เหมือนตอนนั้นหยดน้ำอยู่โรงเรียน พอตอนเลิกเรียนพ่อแม่เพื่อนก็มารับ เสาร์-อาทิตย์เขาก็ไปเที่ยวกัน เหมือนหยดน้ำก็คือถ้าจะไปเที่ยวกับที่บ้านคือต้องลา หยุดเรียน แล้วก็ไปกัน ก็เลยรู้สึกว่าทำไมเขาไม่มีเวลาให้เราเหมือนคนอื่น

แบบนี้คุณพ่อคุณแม่รู้มาก่อนไหม ?

ปู : ก็มีคุณย่าดูแล

หยดน้ำ : ตอนเด็ก ๆ ก็มีร้องไห้ เมื่อไหร่แม่จะเลิกถ่ายละคร ไม่ไหวแล้ว

ชีวิตจริงพ่อแม่ ไม่มีเวลา แล้วในละครมีลูกด้วย เสียใจหนักกว่า ?

หนดน้ำ : ตอนนั้นเสียใจมาก ทำไมเขาไม่รักเรา เขารักคนอื่น

ปู : เมื่อก่อนเรานั่งดูด้วยกัน พอเรามีลูกก็เอาเขามานั่งดูละครด้วยกัน แล้วอธิบายให้เขาฟัง

ตอนนั้นแก้ปัญหายังไง ?

ขวัญ : บางทีถ้ามีช่วงหยุดยาว หรือว่าช่วงเทศกาลเราจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ฮ่องกง ให้เวลากับเขาเต็มที่เลย

มีความสุขไหมตอนที่ไปเมืองนอกแล้วจับมือพ่อแม่ไปด้วยกัน ?

หยดน้ำ : มีความสุข แต่ว่าไม่ชอบเวลาที่พ่อแม่อยู่ด้วยกัน รู้สึกกลัวมีน้อง หยดน้ำจะนอนตรงกลาง เพราะกลัวไม่อยากมีน้อง ไปไหนหยดน้ำจะนอนตรงกลาง ถ้าจับมือหยดน้ำก็อยู่ตรงกลาง ไม่ยอมให้เขาจับมือกัน

ตอนเด็ก ๆ มีลูกอยู่ตรงกลางมันน่ารัก เคยรู้ไหมว่าเขามีความคิดลึก ๆ แบบนี้ ?

ขวัญ : เพิ่งรู้นี่แหละค่ะ มิน่าล่ะ เป็นลูกคนเดียวถึงบัดนี้

นอกจากไม่อยากมีน้องแล้ว ยังไม่ชอบเวลาไปแล้วคนรู้จักพ่อแม่เรา แล้วมาขอถ่ายรูปด้วย ?

หยดน้ำ : ใช่ค่ะ ตอนเด็ก ๆ โดนเปรียบเทียบเยอะด้วย บางทีเราตั้งใจทำ แต่กลายเป็นว่าเราได้มาเพราะพ่อกับแม่นะ เพราะคนรู้จักพ่อกับแม่นะ

เราบอกเขาไหมหรือเรากลับมานั่งร้องไห้อยู่ที่บ้าน ?

หยดน้ำ : แต่ก่อนกลับมาร้องไห้บ่อย เพราะคิดมาก แต่เขาก็ไม่รู้ตรงนี้ เพราะไม่เคยพูด เหมือนหลาย ๆ อย่างที่เราทำด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วคนจะมองว่าทำอันนี้ได้ เพราะพ่อกับแม่ ไม่มีใครมองที่เราเป็นเรา

หนักที่สุดเลยคือมีคนมาพูดกับเราตรง ๆ ด้วย ?

หยดน้ำ : ใช่ค่ะ ตอนนั้นชอบมีพันทิป มีคอมเมนต์ ตอนเด็ก ๆ ไปเปิดดู ตอนนั้นยังไม่สวย อ้วน ๆ ก็มีคนบอกว่าพ่อกับแม่ก็หน้าตาดี ทำไมลูกหน้าตาแบบนี้ ก็เครียดมาก แต่พ่อแม่ไม่รู้ เราไม่ได้บอกใคร หยดน้ำเป็นคนเซนซิทีฟมาก ๆ กับทุกอย่าง

พี่ขวัญกับพี่ปูได้รู้เรื่องที่น้องหยดน้ำไม่เคยบอกผ่านทางรายการเรารู้สึกยังไงบ้าง ?

ปู : งง ๆ เหมือนกัน แต่เขาเป็นคนอย่างนี้ตั้งแต่เด็ก เวลาร้องไห้เขาจะหันหลังแล้วน้ำตาไหล จะไม่แสดงให้เห็น บางทีเราก็ไม่รู้

ขวัญ : ถ้าเขาจัดการอารมณ์ได้ด้วยตัวเองก็โอเค เขาจะได้เข้มแข็ง พี่ขวัญคิดว่าถ้าเขามีปัญหาที่มันไม่ไหวจริง ๆ ยังไงเขาก็ต้องมาบอกเรา แสดงว่าอันนี้เขาสามารถที่จะจัดการด้วยตัวเองได้ก็โอเค เขาจะได้รู้ว่าปัญหานี้ฉันสามารถแก้ได้ด้วยตัวเอง แม่จำเป็นต้องแม่อย่างนู้น หนูรู้สึกอย่างนี้ทุกเรื่อง

ปู : เมื่อก่อนนี้กลัวพ่อดุ ดุไม่ได้

ขวัญ : ดุแล้วน้ำตาไหล แต่แม่นี่นะ บ่นไปเถอะ ไม่รู้สึกอะไรเลย

บ้านนี้บทบาทในบ้านสลับขั้วกันมาก ?

ขวัญ : เรื่องทำกับข้าว พี่ปูเป็นคนทำ พี่ขวัญทำกับข้าวไม่เป็นเลย การดูแลเอาใจใส่ แม่ชอบอะไร ลูกชอบอะไร พี่ปูเขาจะมีความละเอียดเรื่องนี้มาก

จริงไหมบ้านนี้เจ้าอารมณ์ทั้งบ้าน ?

ขวัญ : ใช่ค่ะ อารมณ์ร้อน

ปู : อารมณ์ขึ้นลงเร็ว เวลาขึ้นปุ๊บเราก็หยุด

อะไรที่ทำให้เราโกรธ  ?

ปู : อะไรที่ไม่ถูก อะไรที่ข้ามเส้น ก็ขึ้น แต่พอเรารู้ตัวเราก็รีบหยุด

ขวัญ : เวลาเลี้ยงลูก บางทีลูกดื้อ พูดไม่ฟังเรา พี่ก็แบบทำไมทำอย่างนี้

หยดน้ำ : ทะเลาะกันบ่อยมาก

อารมณ์ปรี๊ดเร็วทั้งคู่ เคยสาดอารมณ์ใส่กันไหม ?

ขวัญ : บ่อยมาก ส่วนใหญ่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ

ปู : ตอนเป็นวัยทองอะไรก็ไม่รู้ ซื้อข้าวมาให้เขา ใส่ตู้เย็น เขาเดินมาอีก 2 ขั้นถึงตู้เย็นแล้ว เขาบอกเอามาให้สิ ฉันไม่ใช่ขี้ข้านะ หย่ากันไหม

ขวัญ : เขาแอบไปร้องไห้ เพราะนี่แหละ

ปู : ของก็ซื้อมาให้ มาท้าหย่า อะไรกัน

ขวัญ : ตอนนั้นอยากอยู่คนเดียว รำคาญมาก

บ้านนี้มีกฎของการทะเลาะกัน คือ ?

ขวัญ : ห้ามโกรธกันข้ามวัน พี่ปูบอกว่าถ้ามีอะไรให้เคลียร์กันวันนั้นเลย เพราะถ้าข้ามวันมันจะยิ่งไปกันใหญ่ ซึ่งจริง ๆ เพราะเรา 3 คนเป็นคนอารมณ์ขึ้นปุ๊บแล้วลงเร็ว สักพักก็มากอดกันแล้ว

เคยมีเหตุการณ์ที่เคลียร์กันไม่จบไหมระหว่างแม่ลูก เห็นบอกว่าแม่หายตัวไปเลย ?

หยดน้ำ : มี หยดน้ำเป็นคนที่เป็นห่วงแม่มาก รู้สึกว่าเราต้องดูแลเขา หยดน้ำรักแม่มาก ๆ หยดน้ำรู้สึกว่าเราใช้ชีวิตทุกวันก็เพื่อเขา หยดน้ำรู้สึกว่าเป็นห่วงเขามาก ๆ เหมือนเขาดูแลตัวเองไม่ได้ หยดน้ำต้องดูแลเขา เราโทรไปแล้วเขาไม่รับโทรศัพท์ หยดน้ำก็โกรธ แล้วร้องไห้ โทรหาคุณพ่อ คุณตา คุณยาย ทุกคนในบ้าน

หยดน้ำ ณ ตอนนี้โสดหรือไม่โสด ?

หยดน้ำ : มีเพื่อนสนิท ไม่โสด แต่ยังไม่เรียกว่าแฟน ก็เรียนรู้กันมาสักพักเกือบ ๆ ปี พ่อแม่ก็รู้ เราตกลงกันว่าจะไม่มีความลับ ถ้าหยดน้ำคบกับใครก็จะมาบอกเขาหมด มีใครเข้ามาในชีวิตเรา เราก็จะบอกเขาหมด

ขวัญ : เวลาเขาคบใคร เขาจะพาเข้าบ้าน ให้มารู้จักพ่อ แม่ คุณย่า แต่ว่าไม่ได้เป็นทางการ มาแนะนำแล้วสวัสดี ลูกคบใครพี่ยินดีด้วย แต่พี่มาสกรีนทีหลังว่าเขาเป็นยังไง พี่ก็จะรู้รายละเอียดจากลูกนี่แหละ เขาเป็นยังไงก็จะมาเล่าให้พี่ฟัง พอเล่าเสร็จพี่ก็จะแสกนแล้วอย่างนี้มันไม่ได้นะ อย่างนี้มันไม่ใช่นะ

พี่ปูหวงลูกจะตาย ?

ปู : ไม่หวงนะ

หยดน้ำ : เขาจะหวงลึก ๆ ในใจ เขาจะบอกว่ามีอะไรให้บอกเขา เหมือนเขาจะพยามให้หยดน้ำสบายใจที่สุด อย่างน้อยอยู่ในสายตาเขา เราบอกอะไรเขา เขาก็จะโอเพ่นกับเราทุกอย่าง ถึงเรารู้ว่าเขาจะห่วงเรามาก ๆ

ปู : เขาเรียกว่าห่วงไม่ใช่หวง

คนล่าสุดนี้ห่วงหรือหวง ?

ปู : เราก็ห่วง แต่เราเชื่อเขา เขาคงเลือกคนของเขาเอง ถามว่าคนนี้ผ่านไหม มันก็ผ่านหมดทุกคน ก็อยู่ที่เขา คนนี้โอเคเรารู้จัก

ขวัญ : เขาสืบประวัตินะคะ

ปู : พ่อไม่เคยต้องสืบเลย พ่ออยู่เฉย ๆ เพื่อน ๆ ก็ไลน์มา

ขวัญ : มีหนุ่มคนหนึ่งเพื่อน ๆ พี่ปูเขารู้จัก ทางนี้ก็บอกเขาเป็นยังไงบ้าง กลับมาเป็นแฟ้มเลย ประวัติของหนุ่มคนนั้น ว่าพ่อแม่เขาชื่ออะไร ทำงานอะไร

มีไหมที่ลูกพามาแล้วไม่ถูกชะตา ?

ปู : เกือบทุกคน

ทำไมรู้สึกว่าทุกคนที่เราคบต้องเอามาเจอพ่อแม่ก่อน ?

หยดน้ำ : เขาเป็นคนสำคัญกับเรามาก ๆ เราคุยกับใคร หรือใครเข้ามาในชีวิตเรา เราก็อยากให้เขามีส่วนร่วมด้วยเหมือนกัน ว่าเราคุยกับคนนี้นะ เรายังอยู่ในสายตาเขา

แล้วเวลาเตือนถ้าเรารู้สึกว่าคนนี้ไม่โอเค ?

ปู : ส่วนใหญ่ ช่วงแรก ๆ จะบอกว่าให้ระวัง ๆ หน่อยนะ พ่อได้ยินมาไม่ค่อยดี แต่เราไปดูเองแล้วกัน

หยดน้ำ : แด๊ดดี๊จะเป็นคนที่ทุกอย่างในชีวิตหยดน้ำ ทุกอย่างลูกต้องเดินเอง ลูกจะเจอปัญหาอะไร ลูกเป็นคนเลือกทางเองทุกอย่าง แต่ให้รู้ไว้ ถ้าลูกล้มจะมีแด๊ดดี๊อยู่ตรงนี้ แต่เวลาล้มหยดน้ำจะเป็นคนไม่ค่อยพูดเรื่องนี้อยู่แล้ว พอมาถึงปุ๊บก็จะมานั่งกับเขา เขาก็จะรู้แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเราแน่ ๆ เขาจะถามว่าเป็นยังไง โอเคไหม อยากเล่าไหม ก็จะเป็นพ่อที่ดูเหมือนจะอารมณ์ร้อน แต่พอมีปัญหาปุ๊บเขาจะเป็นคนแรกที่หยดน้ำจะเดินเข้าไปหา

แล้วทำไมเวลาอกหักไม่มานั่งกับแม่ ?

หยดน้ำ : แม่ก็จะบอกว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป

พี่ปูป่วยเป็นอะไร ?

ปู : ครั้งแรกเริ่มเป็นไตอยู่โรงพยาบาล 27 วัน แล้วอีกครั้งไปผ่าหมอนรองกระดูกที่คอ

ถ้าไม่ผ่าจะเกิดอะไรขึ้น ?

ปู : ตอนนั้นเขาบอกพิการเลย เส้นประสาทมันทับ แล้วหมอนรองกระดูกมันหมดแล้ว อาทิตย์แรกตัดเล็บได้อยู่ อีกอาทิตย์ตัดไม่ได้แล้ว อีกนิดเดียว เขาบอกว่าถ้าล้มอะไรขึ้นมาเป็นซุปเปอร์แมนเลย หมอเลยให้ผ่าด่วน เลยลากองถ่ายไปผ่าเลย

ตอนนั้นลูกรู้ไหม ?

ปู : รู้ แขนลีบชัดเจนเลย ยกแขนไม่ได้เลย อาการเริ่มแรกมันปวดคอ ปวดจนเป็นไมเกรนแล้วเรากินยาแก้ปวดกดอาการไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ดูถึงสาเหตุจนมันช้าไป

ตอนนี้หายขาด หายดีแล้ว ?

ปู : ดีขึ้นครับ แต่ยังไม่ 100% มือยังใช้ไม่ได้เต็มที่ มันต้องกายภาพเองตลอด

อยากเข้าวงการเต็มตัวไหม ?

หยดน้ำ : ก็อยากลอง

ขวัญ : พร้อมเหรอ อย่ามาเป็นภาระให้ฉัน สมมติเขาไปสาย พี่ขวัญคะ ทำไมน้องหยดน้ำยังไม่มาถึงกอง พี่ก็จะเสียสมาธิในการทำงานของพี่

ถ้าเราเข้ามากลัวจะโดนเปรียบเทียบกับพ่อแม่ไหม ?

หยดน้ำ : กลัวมากค่ะ เพราะขนาดเราไม่ได้ทำอะไร เรายังโดนเปรียบเทียบตลอดเวลา

ขวัญ : พี่ไม่ได้ห้าม ถ้าเขามีโอกาส ถ้าดวงมาทางนี้อะไรก็ห้ามเขาไม่อยู่ พี่ขวัญก็ยินดี เพราะอาชีพการแสดงเป็นอาชีพที่เรารัก แล้วก็สร้างอะไรให้เราหลาย ๆ อย่าง เปิดโอกาสให้เราหลาย ๆ อย่าง ก็อยากให้เขามีดวงทางนี้เหมือนกัน แต่ถ้าจะให้พี่ขวัญดัน ไปสิลูก ไม่เอา พี่ทำไม่เป็น ถ้าดวงเขามาทางนี้โอเค ทำธุรกิจคู่ไปด้วยไม่เป็นไร

ปกติบอกรักกันบ่อยไหม ?

ปู : บอกทุกวัน

ขวัญ : พี่ปูบอกจนพี่รำคาญ

อยากบอกอะไรพี่ปู ?

ขวัญ : ดีใจที่เราได้เป็นครอบครัวกัน ได้ครอบครัวมาเป็นพ่อของลูก ดีใจที่เรายังอยู่กันมาจนถึงทุกวันนี้ บางทีพี่ก็คิดว่าเขารักพี่หรือเปล่าหรือเขาไม่รัก แต่จริง ๆ แล้วเขาน่าจะรักพี่มากกว่าที่พี่รักเขา เขาใส่ใจรายละเอียด ซึ่งพี่ไม่มีเลยตรงนี้เขาเรียกว่าหยาบ พี่ปูรายละเอียดเยอะมาก ถามว่ารักเขาไหม รักค่ะ

พี่ปูรักขนาดไหน ?

ปู : มี 2 คนนี้รักที่สุด

หยดน้ำรักคุณพ่อคุณแม่ขนาดไหน ?

หยดน้ำ : รักพ่อกับแม่มาก มากจนหยดน้ำใช้ชีวิตทุกวัน ตั้งใจทำทุกอย่างในชีวิตเพราะเขา หยดน้ำคิดไม่ออกเลยถ้าไม่มีเขา หยดน้ำจะใช้ชีวิตอยู่ไปทำไม เพื่ออะไร เพราะตอนนี้ทุกอย่างของเราเพื่อเขาหมดเลย

อยากขอบคุณอะไรเขาไหม ?

หยดน้ำ : เขารู้อยู่แล้ว ถึงไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ ทุกวันนี้หยดน้ำทำทุกอย่างให้ดี ประสบความสำเร็จในชีวิต ทุกอย่างก็อยากให้พ่อแม่ภูมิใจ

ขวัญ : แม่อยากจะบอกว่าลูกแม่สุดยอดแล้ว แม่ภูมิใจทุกเรื่องที่ลูกคิด ไม่ว่าจะเป็นความคิดของลูก การเรียน การทำงาน การประพฤติตน แม่ภูมิใจในตัวลูกมาก ๆ

ปู : ก็รัก


Entertainment Addict Editorial Team
อ่านทั้งหมด