ฟาดทุกประโยค! มารี ให้สถานะอดีตคนรัก เป็นคนเคยรู้จัก นิ่งใส่ถือว่าใจดีที่สุดแล้ว!

  • By Entertainment Addict Editorial Team
  • 17 ธ.ค. 2020 (09:11 น.)
  • 0

หลังกลับมาเป็นโสด ก็ดูเหมือนว่าช่วงนี้นางเอกสาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน “มารี เบิร์นเนอร์” ใช้ชีวิตสนุก และดูสดใสกว่าเดิม แถมยังดูเนื้อหอมเป็นพิเศษอีกด้วย เพราะล่าสุด ก็มีข่าวเมาท์มอยออกว่าเห็นเจ้าตัวมีหนุ่มมาตามรับตามส่งระหว่างอัดรายการ

งานนี้ สาวมารี เลยออกมาอัปเดตถึงสถานะหัวใจ พร้อมแจงถึงประเด็นที่อดีตคนรักออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่าส่งข้อความหา เจ้าตัวอ่านแต่ไม่ตอบ

ยืนยันว่าไม่มีผู้ชายมาตามรับตามส่ง ไม่มีจริงๆ ขับรถมาเอง ถามว่ารู้สึกยังไงโดนแซวว่าเป็นคนเนื้อหอม ก็ปกติ (ยิ้ม) หนุ่มๆ เข้ามาไม่เยอะ เพราะช่วงนี้เรากิจกรรมเยอะ ตีแบต ขี่ม้า แข่งรถ หลากหลายอยู่ค่ะ

ไม่ได้ปิดใจตั้งแต่แรก สบายใจมากขึ้นในการใช้ชีวิต  เป็นช่วงที่เราอยากทำอะไรก็ทำ เราอยากไปเจอใคร ใครชวนไปไหนก็ไปได้หมดอย่างนี้ ก็ดีค่ะ

หนุ่มๆ ที่เดากันมา 3 คน (กัน นภัทร, ตรี พระเอกช่องวัน และไฮโซร้านทอง) ไม่ใช่ทั้ง 3 ค่ะ คุณเดาผิดแล้วค่ะ (หัวเราะ)

ไปทานข้าวกับแก๊ง พิชญ์ กาไชย เป็นแวดวงสังคมที่รู้จักอยู่แล้ว ถามว่ามีหนุ่มคนพิเศษอยู่ในแก๊งนี้ด้วยหรือเปล่า มีหลายหนุ่มเหลือเกินค่ะ ตอบไม่ถูกเลยค่ะ ถามว่าแก๊งนี้ใช่ไหม ใครบอก (เสียงสูง) ยังไม่ได้พูดเลยนะ ส่วนเขามาขายขนมจีบไหม (หัวเราะ) คอแห้งเลยค่ะ คอแห้ง เข้าตาหรือเปล่าไม่รู้เลยค่ะ ก็ไม่รู้ว่าพูดถึงใคร (ยิ้ม)

รักครั้งใหม่ จริงๆ ก็เหมือนเดิม ไม่ต้องดูอะไรเป็นพิเศษ เปิดใจอยู่แล้ว ไม่ได้ปิดตัวเอง ก็ดูไปเรื่อยๆ อะไรที่เรารู้สึกว่า มันใช่ มันรู้สึกว่าสบายใจก็ไปทางนั้น ไม่รีบ ไปเรื่อยๆ ถามว่าการ์ดสูงขึ้นไหม ไม่ค่ะ ไม่เข็ดค่ะ (หัวเราะ)

ไม่กลัวเป็นข่าวอีก เพราะในเรื่องของความรัก หรือชีวิตส่วนตัว เป็นเรื่องที่เรารู้สึกว่าอยากที่จะใช้ชีวิตให้เต็มที่เหมือนคนทั่วไป เราไม่อยากปิดกั้นตัวเองเพื่อที่จะรักษาอาชีพของเรา คือเรามองว่าตรงนี้คืออาชีพ ชีวิตส่วนตัวคือชีวิตส่วนตัว เราก็ควรจะมีสิทธิ์ใช้ชีวิตส่วนตัวได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่กระทบกัน

มาตรฐานไม่ได้สูงขึ้น ถ้าเกิดใครเข้าตาเราก็คุยได้ แต่ทุกครั้งที่คนเราเจอประสบการณ์อะไรมา มันก็จะทำให้สิ่งที่เรามองหากับสิ่งที่เราไม่อยากเจอเปลี่ยนไปตามนั้น เปลี่ยนไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว ถือว่าเป็นประสบการณ์ของความสัมพันธ์ที่ผ่านมาที่มันก็ต้องเปลี่ยนต่อไปกับทุกๆ คนที่เราเจอ ถามว่ามูฟออนเร็วเหรอ ก็รู้สึกว่ามันแล้วแต่คน สำหรับเรา เราโฟกัสได้ทีละอย่าง

ส่วนประเด็นที่เราปิดกั้นกับอดีตคนรัก เพราะไม่รู้ว่าพ้อยท์ของเขาคืออะไรเหมือนกัน แค่รู้สึกว่า คือถ้าคนเราเป็นเพื่อนกัน หรือมันมีเหตุผลอะไร โอเคมีความจำเป็นที่ต้องร่วมงานหรืออะไรแบบนี้ มันก็จะมีเหตุผลในการพูดคุย แต่อันนี้ก็รู้สึกว่าสิ่งที่พยายามจะพูดคุยหรือทักหา มันไม่ใช่สิ่งที่สมควร หรือเป็นสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องตอบรับค่ะ

ไม่เกี่ยวว่ายังทำใจไม่ได้ คือจะมีบางคนที่เรารู้สึกว่าเป็นเพื่อน บางคนที่เข้ามาในชีวิต แล้วก็ออกไปแล้ว ก็ไม่ควรจะต้องทำอะไร ถ้าในอนาคตเขามาง้อเรา ไม่ค่ะ คือมันไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมาพูดว่า ใครพูดอะไร หรือใครทำอะไร แต่เอาเป็นว่าสิ่งที่เรานิ่ง น่าจะเป็นสิ่งที่เราใจดีที่สุดแล้วค่ะ

คือจริงๆ ถ้าบอกว่าการที่เราไม่ตอบ คือสิ่งที่ทำให้เราสองคนจะต้องลำบากใจถ้าต้องเจอกัน หนูว่าบางทีสิ่งที่เขาพิมพ์มา ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราลำบากใจมากกว่า (หัวเราะ)

ตั้งแต่เลิกกันยังไม่ได้เจอกันอีกเลย ถามว่าสะดวกใจอยู่มั้ย เจอได้ แต่คงไม่มีอะไรต้องคุย ร่วมงานกันได้ เราต้องทำหน้าที่ของเรา แต่ว่าคงต้องแบบว่า เราไม่ใช่คนที่แบบ อ๊าย เป็นยังไงบ้าง คือเป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่า คงไม่น่าจะมีใครมาจับคู่กันอยู่แล้ว แต่ถ้าใครทำแบบนั้น ก็คือทำได้ สบายใจ ไม่ได้มีอะไรติดค้างค่ะ

ถ้าถามสถานะตอนนี้ ก็คนเคยรู้จักกัน…มั้ง…ประมาณนั้นค่ะ ไม่ตอบกลับเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร การพูดคุยไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แต่ก็จบได้แล้วแหละประเด็นนี้


Entertainment Addict Editorial Team
อ่านทั้งหมด