‘จ๊ะจ๋า พริมรตา’ เผยชีวิตรักหลังแต่งงาน ‘จิ๊บ วสุ’ ดูแลดีมาก!

  • By Entertainment Addict Editorial Team
  • 18 มี.ค. 2021 (20:49 น.)
  • 0

หลังจากคู่รักต่างวัย จ๊ะจ๋า พริมรตา – จิ๊บ วสุ ได้เข้าสู่งานวิวาห์ที่แสนจะเรียบหรู ด้วยการเช่าเครื่องบินส่วนตัวจดทะเบียนสมรสกลางอากาศ เมื่อ ( 14 ก.พ. ) ที่ผ่านมา ล่าสุด สาวจ๊ะจ๋า ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงโมเมนต์หวาน ๆ ชีวิตหลังแต่งงานของตนว่า พี่จิ๊บทำให้เจ้าตัวมีเรื่องให้หัวเราะได้ตลอด และได้เห็นพฤติกรรมที่น่ารัก ๆ ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

จ๊ะจ๋า ได้เล่าถึงโมเมนต์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ตนรู้สึกประทับใจในตัวสามีมาก เพราะฝ่ายชายได้บีบยาสีฟันให้ตน แต่คงไม่ได้ทำเป็นประจำ พอบีบแล้วก็หกเลอะเทอะ พอเห็นแล้วก็รับรู้ถึงความพยายามที่จะดูแลเจ้าตัว ฝ่ายชายเป็นคนที่ชอบใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้ว่าจริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้ผู้หญิงควรจะเป็นคนทำให้มากกว่า แต่กลายเป็นว่าพี่จิ๊บทำให้จ๊ะจ๋า ซึ่งนอกจากความรู้สึกดีแล้ว แต่ก็มีความรู้สึกตลกเข้ามาด้วย เหมือนพี่จิ๊บทำไม่เป็น ทำให้ยาสีฟันหล่นลงที่พื้น เป็นความน่ารักมากๆ เจ้าตัวก็ไม่ได้บอกอะไรฝ่ายชาย เพียงแต่ถ่ายสตอรี่ส่งให้เขาดู

มีครั้งหนึ่งที่ตนวานให้ฝ่ายชายช่วยหยิบของให้ แต่พี่จิ๊บหันไปพูดกับหมาว่า “ลูกเดี๋ยวพ่อมานะ แม่ใช้ให้ไปหยิบของ” สาวจ๊ะจ๋าเผยว่า ตนไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้จะใช้อะไรเขาเลย เพราะด้วยความที่เขาอายุมากกว่า และเจ้าตัวก็มีความเกรงใจสูงมาก เวลาจะรบกวนให้พี่จิ๊บทำอะไรให้ ก็จะประมาณว่าพี่จิ๊บ ขออนุญาติ , รบกวนหน่อยนะคะ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินว่า “แม่ใช้ให้พ่อไปหยิบของ” ตนรับรู้ถึงความรู้สึกได้เลยว่าเขาน่าจะยอมมาก ๆ แล้ว เป็นอีกมุมที่น่ารัก

สำหรับมุมที่พี่จิ๊บเป็นปกติ แล้วจ๊ะจ๋าชอบมาก ๆ คือความที่เขาเป็นธรรมชาติ เขาใส่ใจรายละเอียด เขาช่างพูด ช่างคุย ช่างเล่า แต่อีกแง่มุมนึงเขามีความเป็นเด็กสูง และเขามีความเห่อ เวลาได้อะไรใหม่ๆ มีความกระปี้กระเปร่า

โดยตอนนี้สาวจ๊ะจ๋า ได้เปิดร้านดอกไม้ ในช่วงนี้ก็เป็นเทศกาล ออเดอร์จะเข้ามาเยอะ ทำให้ตนต้องอยู่จัดดอกไม้ดึก ๆ ฝ่ายชายก็นั่งรอ เพื่อที่จะเข้าบ้าน เพื่อที่จะเข้าห้องนอนพร้อมกัน บางครั้งก็ได้นั่งรอถึงตีสี่ และมีถ่ายละครตอนเจ็ดโมงเช้า แต่ฝ่ายชายกลับสดชื่นมาก แถมยังบอกต่อว่า รู้สึกสนุก ไม่เหนื่อยเลย เหมือนชีวิตเขาได้เติมเต็ม ในเรื่องของกำลังใจ ถ้าเกิดพลังใจหดหู่ต่อให้เรามีเวลานอนเต็มที่ ก็ไม่อยากทำอะไร

และตนคิดว่าทุกอย่างมันเพิ่งเรื่ม รู้สึกสนุกไปกับเขาด้วย คอยนั่งดูว่าฝ่ายชายจะทำอะไรให้ หรือจะทำอะไรตอบแทนเขา เพราะปกติแล้วจ๊ะจ๋า จะเป็นคนดูแลพี่จิ๊บมาตลอด คอยดูแลความเป็นไปเขามาตลอด แต่พอหลังแต่งงานแล้วกลายเป็นว่าสิ่งที่เราเคยดูแลเขา มันกลับมาที่เรา ซึ่งจ๊ะจ๋าไม่เคยคาดหวังเลยว่าพี่จิ๊บจะต้องมาดูแลจ๋าอะไร ตนรู้สึกขอบคุณเขามาก ๆ

สำหรับเรื่องความแตกต่าง ฝ่ายหญิงคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับทุกคน ทั้งอายุ ทั้งการเลี้ยงดู การเติบโต สังคมที่แตกต่างกัน ทำให้มีวิธีคิดที่แตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ตนคิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร และจ๊ะจ๋ามีวลีที่ตั้งไว้ในใจคือ แตกต่าง แต่ไม่แตกแยก มันใช้ได้กับทุกเรื่องจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน่วยเล็ก ๆ ของครอบครัว จนถึงหน่วยใหญ่ ๆ ของสังคมว่าเราจะแตกต่างกันได้ และเราสามารถอยู่ร่วมกันได้ ท่ามกลางความแตกต่าง

ตนเลยมองว่า ถ้าเรามองความแตกต่างเป็นเรื่องใหญ่ มันก็คือเรื่องใหญ่ แต่หากเรามองว่าเราสามารถปรับตัวกันได้ เราสามารถจะเติมเต็มกันได้ มันก็จะอยู่ด้วยกันได้ เพราะความแตกต่างทำให้ทั้งคู่ เคยเกือบจะเลิกกันแล้ว มันแตกต่างกันมาก แต่ว่าทั้งคู่จับมือกัน รักกันจริง ๆ ใช้ความอดทน ความพยายาม และต้องอาศัยความเข้าใจ

จ๊ะจ๋า บอกต่อว่า ความเข้าใจจะเกิดจากความรัก ถ้าเรามีความรัก เราจะอดทนอุปสรรค เราจะก้าวข้ามไปได้ แล้วเราเรียนรู้ด้วยว่าเราจะไม่ทำแบบเดิม เพราะรู้แล้วว่าเราทำแบบนี้ คนนี้ไม่ชอบ และจ๊ะจ๋าเป็นคนที่ทำอะไรเร็ว คิดเร็ว ซึ่งพี่จิ๊บเป็นคนที่มีระเบียบแบบแผน จะไปหวังความเร็วจากเขาไม่ได้ เพราะเขามีขั้น มีตอน

เวลาจะคุยกับเขาเรื่องเทคโนโลยี ต้องสอนหลาย ๆ รอบ เราก็จะคิดว่าทำไมแค่แอดไลน์ ให้สอนอยู่นั่น สอนแอดไลน์มาสามปีแล้ว ทุกวันนี้ยังถามอยู่ ถ้าเป็นตนครั้งเดียวก็ทำได้แล้ว แต่พี่จิ๊บเขาไม่ได้โตมากับเทคโนโลยีแบบนี้ เราต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูด พูดเพราะ ๆ ไม่มีใครที่อยากถูกตำหนิ เขาแค่ไม่รู้ คนที่ไม่รู้ ไม่ได้แปลว่าเขาผิด เจ้าตัวจึงค่อย ๆ บอก คิดว่าการบอกเขาซ้ำ ๆ ทำให้เราได้คุยกันมากขึ้น ทำให้เราได้เจอหน้ากัน ได้เห็นสีหน้าเขาเป็นยังไง ในวิกฤติความแตกต่าง ความน่าเบื่อ ความย้ำคิดย้ำทำ มันมีโอกาสความรักอยู่ด้วย มันต้องหาวิธีมุมมองแบบนี้ มันทำให้ชีวิตเรามีความสุข


Entertainment Addict Editorial Team
อ่านทั้งหมด