เติ้ล ธนพล รับคดีขโมยไฟหลวง ทำชีวิตพัง จิตตกต้องพบจิตแพทย์ สุดท้ายพึ่งเหล้าจนเกือบตาย

  • By Entertainment Addict Editorial Team
  • 18 มิ.ย. 2021 (19:18 น.)
  • 0

พระเอกมากความสามารถ เติ้ล ธนพล เปิดใจครั้งแรก หลังชีวิตพลิกผัน มีคดีขโมยไฟฟ้าหลวงใช้ ไม่จ่ายค่าไฟนาน 3 ปี ตอนนี้คดีความไปถึงไหนกันแล้ว และตอนนี้ชีวิตตกต่ำไม่มีผลงาน ต้องเก็บตัวเงียบ ถึงขนาดพบจิตแพทย์ แถมยังติดเหล้านานนับปี ถึงขั้นถ่ายและกระอักเป็นเลือด พร้อมขอเคลียร์ชัด ๆ เป็นดาราตกอับต้องแย่งข้าวหมากิน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ที่มีเป็กกี้ ศรีธัญญา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เรื่องการขโมยไฟใช้ ตอนนี้คดีความเป็นยังไง ?

เติ้ล : ตอนนี้อยู่ในช่วงฎีกา เรื่องราววันนั้นเหมือนมันพลิกผันไปหมด ถือว่าเราอาจจะเป็นเด็กด้วย ด้วยความที่ว่าเราอาจจะทำโดยไม่รู้เท่าถึงการณ์ หรือว่าอาจจะไม่รู้เรื่องอะไร แต่เราก็ยอมที่จะชดใช้ทั้งหมด

มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เราไปต่อโดยที่เราไม่รู้ว่านี่หม้อเรา หม้อใคร หรือว่ามันเป็นยังไง ?

เติ้ล : คือทุกอย่างมันเป็นปกติหมด เราเสียค่าไฟเดือนนึง ผมจะเรียกว่าช้อปใหญ่ ช้อปเล็ก ช้อปใหญ่เนี่ย สองหมื่นกว่าบาทเกือบสามหมื่น

ทำธุรกิจเกี่ยวกับคาร์แคร์ ?

เติ้ล : ใช่ครับ แล้วมันจะมีตึกอีกตึกนึง ซึ่งเราเสียค่าไฟเดือนนึง 2-3 พันบาท ทุกอย่างเป็นปกติหมด เราก็ไม่รู้ พออยู่มาวันนึงเราให้คนมายกหม้อไฟ เพราะว่าลูกน้องเราเนี่ยอยู่แล้วดื้อ เราก็เลยบอกว่างั้นก็ตัดน้ำ ตัดไฟเลย พอตัดน้ำ ตัดไฟ แต่เอ้า…ยังมีไฟติดอยู่ ก็เลยทราบว่ามันมีการต่ออะไรแบบนั้นด้วย

ค่าไฟที่เราจ่ายไปแสดงว่ามีหลายส่วนของมิสเตอร์ ?

เติ้ล : ใช่

เห็นว่าเสียค่าปรับไปหลายอยู่ ?

เติ้ล : ประมาณแสนกว่าบาท 4 ปีก็ประมาณเดือนละพันกว่าบาท

ตอนนั้นเรื่องราวใหญ่โตมาก ทำไมไม่เคยออกมาพูดเรื่องนี้ ?

เติ้ล : เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะพูดไปทำไม เราเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว เราไม่มีหุ้นส่วน แล้วเราไม่รู้ว่าเราจะทำยังไง เราก็เลือกที่จะรับผิดชอบเพียงคนเดียวดีกว่า

เวลามีเรื่องมีราว คนคิดดีก็คิดดี คนไม่เข้าใจก็มี คิดว่าคนจะมองเราในแง่ลบไหม ?

เติ้ล : เรื่องแบบนี้มันมีอยู่แล้ว มีทั้งคิดดีและคิดไม่ดี แต่เราทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าเราเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว รับผิดชอบเพียงคนเดียว ในใจตอนนั้นคิดแค่นั้น

มันส่งผลกระทบอะไรในชีวิตเราบ้าง ?

เติ้ล : งานทุกอย่างถูกแคนเซิลหมด

เห็นว่าละครโดนยกเป็น 10 เรื่อง ?

เติ้ล : ใช่ครับ เพราะว่าความผิดอันนี้

ตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้าง ?

เติ้ล : ก็เสียเซลฟ์ไปเลย ทุกอย่างมันพังทลายไปในพริบตา ทุกอย่างเหมือนกับเราฆ่าคนตาย เราค้ายาเสพติด เราทำผิดมหันต์อะไรประมาณนี้

ทั้งที่ตัวเองยอมรับนะในการชำระโทษ แต่เห็นว่าในสังคมเวลาออกมานอกบ้าน สายตาที่มองเรา ?

เติ้ล : ใช่ สายตาที่มองเรามันเหมือนกับ หรือเราคิดไปเอง อาจจะเหมือนกับว่ามึงทำผิด มึงฆ่าคนตาย จนเรารู้สึกว่าเราจิตตกไปเอง ไม่กล้าที่จะออกไปไหน คือทุกคนที่เข้ามาพยายามจะให้กำลังใจ แต่สายตาที่เรามอง เพราะว่าตั้งแต่เด็กจนโตเราไม่เคยขึ้นโรงพักด้วยซ้ำไป พอเรามีคดีความเรารู้กลัว กลัวในการทำผิด กลัวทุกอย่าง กลัวว่าใครจะคิดยังไง คิดถึงตัวเราว่าคนนี้มองเราแปลก ๆ ระแวงไปหมด สายตาที่เขามอง แบบเขามองเราแบบนี้ เขาต้องคิดว่าเราฆ่าคนตายหรือเปล่า มันเหมือนแบบนั้นไป เราคิดถึงว่าแล้วพ่อแม่ของเราจะกล้าออกไปไหม เพราะลูกขโมยไฟใช้ ทั้ง ๆ ที่เราก็จ่ายค่าไฟเดือนนึงเกือบ 30,000 บาท

เห็นว่าไม่ใช่เรื่องของสายตาที่รู้สึก คอมเมนต์ในโซเชียลเข้าไปอ่านไหม ?

เติ้ล : ผมเลือกที่จะไม่อ่าน ตั้งแต่เข้าวงการ แต่ก็จะมีแฟนคลับมาเล่าให้ฟัง แต่จริง ๆ มันก็มีผ่าน ๆ ตาบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ มันก็จะมีแบบเราทำผิดมาตั้งแต่เริ่ม ชีวิตนี้มึงเกิดมาทำไม อะไรประมาณนั้น เราก็แบบ เราไปทำขนาดนั้นเลยเหรอ เราไปทำร้ายเขา ทำร้ายครอบครัวเขาขนาดนั้นเลยเหรอ เขาถึงมาด่าเรา มาด่าครอบครัวเราขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่เราก็ยอมรับ

ครอบครัวของคุณเติ้ลเป็นยังไงบ้างกับเรื่องราวนี้ ?

เติ้ล : แรก ๆ ก็เสียเซลฟ์เหมือนกัน ก็เฟลกันเหมือนกัน คิดว่าไม่กล้าออกไปไหนเหมือนกัน เพราะว่าลูกชายคนเดียว เป็นพระเอกด้วย แล้วอยู่ดี ๆ มาต้องคดี

ในบ้านมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้เยอะไหม ?

เติ้ล : มีครับ ผมเป็นคนบอกคุณพ่อเองว่า ไฟมันต่อพ่วงกันไปกันมาหรือเปล่า 2 ที่อะไรประมาณนั้น ก็ให้ยกออกไปเลย จะได้จบ ๆ ไป แม้แต่ตัวญาติพี่น้องเราเอง เราก็โดนกระทำ โดนหลาย ๆ รูปแบบ

ในเรื่องนี้รู้สึกว่ามันคือตราบาป ?

เติ้ล : มากครับ

เห็นบอกว่าถึงขนาดต้องไปพบจิตแพทย์เลย ?

เติ้ล : ครับ ไม่กล้าออกไปไหนเลย

อาการเป็นยังไง ?

เติ้ล : ระแวงครับ ไม่อยากพบปะผู้คน ไม่อยากเจอหน้าใคร เพราะว่าพอเราออกไป เรารู้สึกว่าคนนั้นก็คิด คนนี้ก็คิด เราก็ผิด พอเรารู้สึกผิดจริงมันก็รู้สึกผิดไปใหญ่ แต่เราก็ไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าแม้แต่เดินออกนอกบ้าน ไม่กล้าแม้แต่จะพบปะกับใคร

จิตไม่แข็งเกร่ง ขนาดจิ้งจกเรายังกลัว ?

เติ้ล : ใช่ เกิดมาในสิ่งที่ไม่เคยกลัว กลัวคน กลัวจิ้งจก กลัวไปหมด กลัวเสียงดัง กลัวคนมาพูดใส่ กลัวในสิ่งที่ไม่น่ากลัว

การที่กลัวภายนอกไม่ออกไปนอกบ้าน ใช้ชีวิตยังไง ?

เติ้ล : อยู่แต่บ้านอย่างเดียว มันมีมุมของผมอยู่ คือ หน้าตู้เย็น มันเป็นจุดที่นั่งแล้วสบายใจที่สุด มันเป็นที่แคบ ๆ เรารู้สึกปลอดภัย แล้วไม่รู้จะทำอะไร หันไป หันมา เลือกที่จะพึ่งไม่ยานอนหลับที่หมอจิตเวชให้มาก็ดื่มเหล้า

อาการจิตตกเป็นอยู่นานไหม ก่อนที่ตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ ?

เติ้ล : ประมาณปีกว่า นั่งอยู่มุมนั้น

ตอนนั้นทานข้าวอะไรปกติไหม ?

เติ้ล : จะมีเด็กทำความสะอาดที่ผมจะเรียกใช้เวลาที่ผมหิว แต่ส่วนใหญ่จะไม่กินนะ น้อยมากครับ สำหรับ 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ก่อนจะเข้าโรงพยาบาล จะทานข้าวน้อยมาก แทบจะนับเป็นจานได้

ไปพบจิตแพทย์แล้วคุณหมอบอกว่าเราเป็นอะไร ?

เติ้ล : มันเป็นโรคจิตอ่อน ๆ คุณหมอก็ให้ยามาทาน เพื่อให้เราหลับ ให้เราคลายกังวล คลายเครียด มันคลายไปหมดจนลืมไปหมด

กลายเป็นว่าจำอะไรไม่ค่อยได้ ?

เติ้ล : สมองส่วนกลางถูกทำลาย

เพราะว่ายาที่ได้มาต่อหนึ่งมื้อ 10 เม็ด แล้วทานวันละกี่มื้อ ?

เติ้ล : 3 มื้อครับ แทบจะทานยาแทนข้าว

เวลาที่เรากังวลแล้วเราทานไป เราดีขึ้นยังไง ?

เติ้ล : ดีขึ้นคือมันคิดอะไรไม่ออก มันจะคิดย้ำไปย้ำมาเหมือนวนลูป พอทานยาเข้าไปมันจะลืม แทบจะลืมไปชั่วขณะ แล้วคุณหมอก็จะจ่ายยานอนหลับมาให้ เราก็จะหลับไปช่วงขณะนึง แล้วก็ตื่นมาใหม่ หันไปหันมาแล้วก็ดื่ม

เป็นแบบนี้ทรมานขนาดไหน ?

เติ้ล : เรียกว่าทรมาณไหม อยู่กับมันได้ประมาณเดือนกว่า ๆ ผมตัดสินใจว่าไม่ได้แล้ว อย่างวันนี้ผมคุยกับพี่ พรุ่งนี้หรือตอนเย็นผมลืมแล้ว พอกินยาหลับไป พอตื่นขึ้นมาผมลืมแล้วว่าผมพูดอะไรกับพี่บ้าง ผมก็เลยเลิกยา เพราะว่าสมองผมถูกทำลาย

ก็เลยหันมาดริ๊งค์ ?

เติ้ล : ใช้ดริ๊งค์ ใช้แอลกอฮอร์เป็นตัวช่วย นอนไม่หลับก็เลือกที่จะมาเดินออกกำลังกาย เหนื่อยเมื่อไหร่หลับ เพราะว่าชีวิติทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

ตอนนั้นที่ตัดสินใจหยุดได้ปรึกษาหมอไหม หรือหยุดเอง ?

เติ้ล : หยุดเองครับ

ตอนนั้นมีละครค้างอยู่ไหม ?

เติ้ล : มีครับ มีเล่ห์รัญจวน เล่นกับแตงโม นิดา

ได้ปรึกษาแตงโมด้วย ?

เติ้ล : เหมือนเราคุยกันเป็นก้อน อยู่ในกลุ่ม มันคิออาการเดียวกัน

คุณแตงโมเคยเป็นเหมือนกัน ?

เติ้ล : ใช่ครับ

เห็นว่าตอนถ่ายละครก็มีปัญหา ?

เติ้ล : ใช่ครับ โดนตัดไปทั้งหมด 5 ตอนครับ

ตอนถ่ายละครจำบทได้ไหม ?

เติ้ล : จำไม่ได้ ใันมีอยู่วันนึงถ่ายฉากปกติ ผมไปตอนเช้า 7 โมง แต่งหน้า ทำผมเสร็จประมาณ 9 โมง เป็นฉากที่ต้องลงไปในเรือ แล้วจากเรือขึ้นมาท่าน้ำ อาการมา กลัวน้ำ กลัวเรือ กลัวไปหมด ตัวสั่น มือสั่น ตาแดง จนแตงโมมาถามไม่ได้กินยาใช่ไหม ผมก็บอกเลิกมาสักพักแล้ว เขาก็ถามว่าเอาของเขาก่อนไหม เราก็บอกว่าไม่ได้

ตอนนั้นร่วมงานกับคุณเติ้ล เห็นอาการของคุณเติ้ลเป็นยังไง ?

แตงโม : จริง ๆ เราร่วมงานกันมาเยอะมาก ตั้งแต่สมัยเด็กๆ  แล้ว อาการพี่เติ้ลเขาจะมีอาการเวลาปกติจะไม่ค่อยแสดงอาการอะไรให้เห็นเลย แต่เวลาเริ่มถ่ายละคร เวลาพี่เติ้ลเริ่มที่จะตั้งใจอะไรมาก ๆ อาการพี่เติ้ลเริ่มจะมา เขาเริ่มมีอาการมือสั่น โมเห็นแล้วโมรู้เลย เพราะโมเคยเป็นมาก่อน แต่โมอาจจะไม่ได้เป็นหนักเท่าพี่เติ้ล โมรู้สึกทรมานกับสิ่งที่ตัวเองเป็นมาก ๆ ดูแล้วแบบไม่ได้พี่ต้องหาหมอ คือโมเข้าใจ

แล้วคุณเติ้ลเขามาปรึกษาอะไรบ้าง ?

แตงโม : เขาก็มาปรึกษาว่ามันเป็นยังไง มันเกิดจากอะไร เราก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าตอนที่เราเป็น เราเป็นเพราะอะไร แล้วเขาเป็นมาจากอะไร มันมีจากหลายปัจจัยนะ อย่างแรกเลยคือสารเคมีในสมองมันไม่เท่ากัน เราต้องเข้าใจก่อนว่าโรคแพนิกหรืออะไรพวกนี้ มันเป็นโรคทางสมองที่ส่งผลทางจิตใจ ทีนี้เรามาดูด้านจิตใจ สมองเราไม่สบายแล้วไม่เป็นไรเดี๋ยวเรากินยา แต่ทางด้านจิตใจก็ต้องใช้ในการแก้ปมปัญหาตรงนั้นของชีวิตตัวเอง ก็ได้ฟังเรื่องราวของเขามาบางทีมันก็มีอะไรหนัก ๆ เหมือนกัน

ตอนนี้อาการจิตเวชก็ไม่ได้กินยา ?

เติ้ล : ไม่ได้กินยาครับ

ที่บอกเมื่อกี้คือการหันมาดื่ม คุณดื่มเยอะขนาดไหน ?

เติ้ล : ดื่มไม่เยอะ วันนึงประมาณกลมนึง เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน จิบทั้งวัน จิบให้หลับ พอหลับได้ 1-2 ชม.หันไปหันมาไม่รู้จะทำอะไรก็ดื่มอีก

ดื่มแทนข้าวได้เลย ?

เติ้ล : ใช่ ผสมน้ำ ข้าวไม่กิน เป็นแบบนี้เป็นปี

การดื่มเหล้าส่งผลอะไรกับร่างกายบ้าง ?

เติ้ล : ครั้งแรกตับพอง เส้นเลือดดำในทางเดินอาหารพอง เป็นเหมือนข้อเลือด เป็นเม็ดขึ้นมา เป็นจุด ทั้งหมด 7 จุด คุณหมอบอกว่า คุณมีระเบิดอยู่ในตัว 7 ลูก แล้ววันนั้นเป็นวันที่ไปงานเลี้ยงวันเกิดพี่ มันแตก 3 จุด ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายไม่หยุด ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ มันออกมาทีละลิตร

ไปถึงโรงพยาบาลแล้วคุณหมอว่าไง ?

เติ้ล : วันนั้นไปถึงก็โวยวายเหมือนกัน เพราะตอนนั้นอยู่ในอาการที่มึนเมา ก็ต้องขอโทษบุคลากรทางการแพทย์ด้วย

เห็นว่าไปถ่ายเป็นเลือด 1 ลิตรต่อ 1 ครั้ง ไม่น้อยนะ แล้วจะมีภาวะช็อกด้วย เนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำ ?

เติ้ล : ใช่ เกล็ดเลือดต่ำ คือเวลาเราเป็นแผลมันจะไหลไม่หยุด แต่ก่อนหน้านี้สัญญาณเตือน คือ ผมจะมีเหมือนตุ่มเลือด เหมือนตุ่มไฝตรงจมูก พอเวลาความดันเราเกิน หรือว่ามีอาการขึ้นมา มันจะแตก แล้วเลือดเนี่ย เสื้อยืด 2 ตัวบิดเป็นเลือดได้เลย

ตอนนั้นอยู่โรงพยาบาลสภาพเราเป็นยังไง ?

เติ้ล : ตื่นมาไม่เห็นอะไร แล้วบอกคุณพยาบาลว่า ผมขอโทรหาคุณแม่ผมหน่อย ผมบอกแม่ว่าที่นี่เขาดูแลดีจังเลย เขาใช้หมอตั้ง 4 คนมาดูแลเรา แล้วแม่ก็บอกว่า แกยังไม่รู้อีกเหรอว่าแกกำลังจะตาย ตอนนั้นเราก็ใส่เครื่องช่วยหายใจ น้ำเกลือ 8 จุด

เห็นบอกต้องถ่ายเลือดทุกครึ่งชั่วโมง ?

เติ้ล : ให้เลือด

เห็นว่าค่ารักษาก็ไม่ธรรมดา รักษาในโรงพยาบาล 5 วัน หลักล้าน ?

เติ้ล : หลักล้านครับ ตอนนั้นโชคดีมีประกันครับ ถ้าไม่งั้นคงเครียดกว่าเดิม

จากก่อนหน้านี้ ก่อนที่เราจะพีคหนัก ๆ เราดื่มเหล้ามาตลอด เรียกว่าติดได้ แต่พอเข้ารักษา 5 วันไม่ได้ดื่ม เป็นยังไงบ้าง ?

เติ้ล : วันแรกร้องไห้เลยครับ ร้องไห้กับคุณแม่ บอกว่าไม่เอาอีกแล้วทรมานเหลือเกิน มันเหมือนเป็นแอลกอฮอลิซึ่ม มันอยาก มันหยุดไม่ได้ มันลุกขึ้น ลุกลง จนผมต้องขอยาระงับประสาท

เข็ดไหม ?

เติ้ล : เข็ดครับ ออกจากโรงพยาบาลมาหยุดดื่มเลยครับ แล้วก็หันมากินนม ออกกำลังกาย

เห็นว่าพอเข็ดได้สักระยะ ความรอบ 2 ก็เกิดขึ้น ?

เติ้ล : รอบ 2 นี่ก็คือ โควิดรอบที่ 3 เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา คือขึ้นไปสร้างโรงเรียนที่ท่าสองยาง จังหวัด แม่ฮ่องสอน ตอนขึ้นไปก็มีการดื่มไวท์กันแก้วนึง มีผู้ใหญ่ชวนดื่ม ก็ให้เป็นเกียรติ ผมดื่มไปนิดนึง เข้านอน ตื่นเช้ามาไม่มีอาการ เช้ามาก็ขับรถออกไปอีกสัก 60 กิโล แต่มันเป็นทางขึ้นเขา ก็ไม่มีอาการอะไร ทานข้าวปกติ ขากลับมาถึงสิงห์บุรีก็ดื่มไวน์อีกแก้วนึง คราวนี้เริ่มมี เริ่มไม่ปกติ เริ่มมีท้องพอง ๆ เหมือนจะอาเจียน ตัดสินใจว่าจะหาโรงแรมพัก แล้วออกตอนเช้าดีกว่า พอเข้าโรงแรม อาบน้ำเสร็จ เหมือนปีโป้อยู่ในปาก 2 ชิ้น มันคือลิ่มเลือด อาเจียนออกมาในอ่างน้ำ แต่ตอนนั้นยังไม่สนใจ เพราะว่าเราทานยาบำรุงเลือดเป็นสีแดงด้วย เราก็คิดว่ามันอาจจะเป็นน้ำย่อย พอออกมานั่งสักพักนึง ผมก็หยิบถังขยะมาวางข้าง ๆ รู้สึกพะอืดพะอม คราวนี้ครึ่งถังขยะ ออกมาเป็นเลือด

ก่อนหน้านี้คุณหมอได้บอกไหมว่าจริง ๆ ร่างกายเราห้ามดื่มอีกนะ ?

เติ้ล : ใช่ครับ จากครั้งแรกมาถึงครั้งนี้ประมาณ 2 ปี คุณหมอบอกว่าไม่มีวันหาย

หมายความว่าเราไม่สามารถกลับไปแตะแอลกอฮอล์ได้แม้แต่นิดเดียว ?

เติ้ล : ใช่ครับ

ช่วงนั้นโควิดระบาดหนัก คุณเข้าโรงพยาบาลไม่ได้ ?

เติ้ล : ใช่ครับ ไม่มีที่ไหนรับเลย โทรไปโรงพยาบาลไม่มีแม้แต่ห้อง ไม่มีแม้แต่เลือดในกรุงเทพ เตียงก็ไม่มี ผมต้องเข้าโรงพยาบาลสิงห์บุรี แล้วโรงพยาบาลอยู่หลังโรงแรมพอดี ถ้าไกลกว่านั้นผมว่าผมเสียชีวิตไปแล้ว เพราะวันนั้นผมออกมาจากห้องน้ำแล้วช็อก คือไม่มีตาดำแล้ว แล้วก็ล้มไปหัวฟาดพื้น แล้วก็กระอักเลือดออกมา

รักษาตัวอยู่นานไหม ?

เติ้ล : 5 วันครับ นอนห้องรวม

ณ ตอนนี้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ?

เติ้ล : แข็งแรงแล้วครับ

คุณจะกล้าดื่มอีกไหม ?

เติ้ล : ไม่กล้าแล้วครับ

เข็ดตลอดชีวิต ?

เติ้ล : ครับ

มีคำพูดที่ว่าคุณกลายเป็นดาราตกอับ ถึงขั้นแย่งข้าวหมากิน มันเกิดอะไรขึ้น ?

เติ้ล : มันเริ่มจากโควิดรอบแรก ผมเริ่มวางแผนทำมาหากิน คือ จะเพาะพันธุ์หมาขาย ไม่เป็นไร เรายังสนุก ยังมีทุนอยู่ พอโควิดรอบ 2 เรากลับมาเริ่มไม่ไหวแล้ว เพื่อนก็เลยถามว่าเป็นไงบ้าง นี่ก็เลยบอกกุจะแย่งข้าวหมาแดกอยู่แล้ว พอรอบ 3 มาเป็นไงบ้างวะเพื่อน รอบนี้ไม่แย่งข้าวหมาแ_กละ กูจะแ_กหมาที่เลี้ยง ก็คุยกันขำ ๆ ประสาเพื่อน

จริง ๆ แล้วยังโอเคอยู่ไหม ?

เติ้ล : โอเคครับ แต่ถ้าถามว่าโอเคมากไหม ถ้าบอกว่าโอเคมากก็คงโกหก ทุกอย่างก็คงประสบเจอกันทุกคน ก็ต้องรัดเข็มขัด

คุณเติ้ลรู้สึกยังไงกับคำว่าดาราตกอับ ?

เติ้ล : งานเราน้อยลง เราอายุมากขึ้นก็ไม่ค่อยได้คิดอะไร แต่ก็พยายามทำใจว่ายังไงคลื่นลูกใหม่ก็ต้องมา หาอย่างอื่นทำได้ อย่างเช่นเกษตรกรรม เกษตกร หรือสิ่งที่เราชอบ เราก็วางปูไว้ตั้งแต่เราอยู่ในวงการ

มีผู้ใหญ่ท่านนึงมาคุกคามในชีวิต รวมถึงพ่อแม่ด้วย ?

เติ้ล : ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อารมณ์ไหนเหมือนกัน เพราะผมไม่ได้ตามเฟซบุ๊กอะไรเขา พอตื่นเช้ามาก็มีน้องแฟนคลับมาถามพี่ไปทำอะไรเขา แล้วมีเพื่อน ๆ ในวงการมาถามว่า มึงไปทำอะไรเขา เขาถึงมาด่าเราถึงขนาดนี้ รวมถึงแม่ด้วย โทรมาตอนตี 1 ตี 2  มาเล่าอะไรไม่รู้เรื่องเลย บอกว่าไม่ได้อยู่ที่นี่ก็ไม่ฟัง ทำอะไรก็ไม่ฟัง พอดูเบอร์ก็เข้าใจแล้ว คือเขาให้ผมช่วยเช่าพระ แต่ผมไม่ได้ช่วย ผมบอกว่าช่วงนี้สภาวะความคล่องผมไม่เหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นผมยังพอช่วยได้ ผมก็เลยปัดไปว่าให้พี่ ให้เพื่อนผมดูแล้วกัน ถ้าเขาจะเอาเดี๋ยวผมนำเสนอให้ แต่ผมก็ไม่ได้นอบอะไรไปมาก เขาก็ยังโทร ๆ มา ส่งข้อความมาด่า ๆ เขาด่าแรงมาก มึงไม่โทรกลับกูเอง มึงสร้างภาพ

จนกลายเป็นคดีความใช่ไหม ?

เติ้ล : ครับ ผมก็เลยตัดสินใจกับเพื่อนว่า ให้ทนายเป็นคนคุยดีกว่า เราไม่อยากจะทะเลาะเอง

ติดตามรับชมรายการคุยแซ่บShow ย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama


Entertainment Addict Editorial Team
อ่านทั้งหมด